โดยจะคำนึงถึงการอนุรักษ์สภาพแวดล้อมและความเป็นอยู่ของชุมชนในพื้นที่เพราะคนในท้องถิ่นเป็นผู้ที่มีความสำคัญในการจัดการพื้นที่ของตนเองและชุมชนจะต้องเห็นประโยชน์ที่จะได้รับจากป่าก่อนจึงจะชักนำให้เกิดความพยายามที่จะ รักษาพืนที่ดังกล่าวไว้ ตัวอย่าง การฟินฟูภูมิทัศน์ป่าไม้ คือ ฟินฟูระบบนิเวศป่าเพื่อการอนุรักษ์การทำให้แหล่งน้ำในหมู่บ้านมีคุณภาพดีและปริมาณสม่ำเสมอการสร้างแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศในท้องที่เป็นการเพิ่มรายได้ให้ชุมชน
เป็นวิธีที่ชุมชนส่วนใหญ่นิยมทำการจัดซื้อก่อนที่จะมีการปลุกป้าเสริมหรือปลูกป่าเนื่องในโอภาสสำคัญต่างๆเนื่องจากเป็นวิธีการที่สะดวกและรวดเร็วในการบริหารจัดการ ซึ่งพันธุ์ไม้ที่ทำการจัดซื้อนั้นก็เปลี่ยนไปตามสภาพพื้นที่ป่าชุมชนว่ามีไม้ใดเป็นไม้ประจำถิ่นและมีอัตราภารอยู่รอดหลังทำการปลุกได้สูง
สามารถใช้วัตถุที่หาได้จากธรรมชาติในท้องถิ่น เช้น ไม่ไผ่ ดิน หินเศษไม้หากภูเขาหนึ่งลูกสามารถสร้างฝายชะลอน้ำได้อย่างมีระบบ ก็จะช่วยให้ภักเก็บความชึ้นไว้บนภุเขาได้มากสภาพนิเวศน์ที่ดีทั้งหลายก็จะกลับคืนมา น้ำก็จะค่อยๆไหลลงมาจากที่สูงลงสู่พื้นล่าง ชุมชนโดยรอบจะอยู่อย่างเป็นสุขเพราะมีน้ำใช้ตลอดทั้งปี
ข้อดีของการมีเรือนเพาะชากล้าไม้ คือ ชุมชนเป็นผู้ควบคุมการผลิตกล้าไม้ทั้งหมด รวมไปถึงการเลือกชนิดของพันธุ์ไม้การกำหนดคุณภาพและปริมาณของกล้าไม้ที่ผลิต ภารมีส่วนร่วมของชุมชนในการผลิตภล้าไม้จะทำให้ชุมชนใส่ใจดุแลรักษากล้าไม้นั้นเป็นอย่างดี อีกทั้งเรือนเพาะชำกล้าไม้ของชุมชนนั้นตั้งอยู่ใกล้พื้นที่ปลูก จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายในภารขนย้ายกล้าและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการขนย้ายอีกด้วย
อุปกรณ์พื้นฐานสำหรับเรือนเพาะชำ เช่น พลั่วและถังสำหรับเก็บขนย้ายและผสมวัสดุปลุก พลั่วมือหรือพลั่วไม้ไผ่สำหรับบรรจุวัสดุปลุกลงในภาชนะปลุก บัวรดน้ำมีฝักบัวรูเล็กๆ ตะแกรงร่อน รถเข็นสำหรับขนย้ายต้นกล้าและวัสดุต่างๆในเรือนเพาะชำ จอบ ภรรไกรตัดกิ่งบันไดและเครื่องมือช้างพื้นฐาน เพื่อใช้ในการตาข่ายบังแสง และยังมีปุ๋ยอินทรีย์เพื่อใช้ในการบำรุงให้กับต้นไม้ที่ทำภารปลุกเสริมป่าในพื้นที่จริงอีกด้วย